Honda CBR600RR รีวิว Specs รถมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ต พร้อมราคาและตารางผ่อน (Top Speed / Sound)
สำหรับรถรุ่นนี้ จะเป็นรถบิ๊กไบค์ซุปเปอร์สปอร์ต ที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีสุดล้ำจนนักขี่สายสปอร์ตหลายคน ยกให้มันเป็นรถที่เข้ามายกระดับมาตรฐานใหม่ให้รถสปอร์ตระดับ 600 ซีซี ในบ้านเรา โดยเครื่องยนต์จะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC ขนาด 599 ซีซี ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานระบบไอดีและไอเสีย ทำให้การไหลเวียนอากาศภายในเครื่องยนต์ทำได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ลูกนี้มีกำลังที่สูงขึ้นที่ 121 แรงม้า (13,000 รอบ/นาที) และมีแรงบิดสูงสุดที่ 64 นิวตันเมตร (11,500 รอบ/นาที) ระบายความร้อนด้วยน้ำ มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 259 กม./ชม. ซึ่งผมคาดว่าถ้าเรารถไปเปลี่ยนท่อหรือตกแต่งเพิ่มอีกสักหน่อยย่อมสามารถเพิ่มความเร็วสูงสุดให้กับตัวรถได้อีก ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงใช้ระบบหัวฉีด PGM-DSMI มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอิเล็กทริก
ok ทีนี้เรามาดูกันที่การออกแบบของตัวรถกันบ้างดีกว่า Hond CBR600RR ถูกดีไซน์ตามหลัก Aerodynamics เพื่อช่วยลดแรงลมปะทะในขณะที่ขับขี่อยู่บนความเร็วสูง โดยจะมี Winglet อยู่บริเวณแฟริ่งด้านหน้า เพื่อเพิ่มแรงกดให้สามารถควบคุมรถได้มั่นคงยิ่งขึ้นในขณะที่ใช้ความเร็ว มิติของรถมีความกว้าง 685 มม. ยาว 2,030 มม. และสูง 1,140 มม. ความสูงจากพื้นถึงเบาะอยู่ที่ 820 มิลลิเมตร ซึ่งจากที่ผมลองไปคร่อมดูก็พบว่าสามารถเอาขาทั้ง 2 ข้างเหยียบลงพื้นได้เต็มผ่าเท้า โดยเขย่งเท้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ถึงขั้นต้องใช้ปลายเท้าจิกแบบรถสปอร์ตบางรุ่น และสามารถเหยียบลงพื้นได้แบบเต็มๆ เท้าเมื่อขยับก้นเล็กน้อยและใช้ขาอีกข้างหนึ่งเหยียบลงบนพักเท้า ซึ่งความสูงของผมอยู่ที่ 172 ซม. ในส่วนของถังน้ำมันจะสามารถจุเชื้อเพลิงได้ 18 ลิตร น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 195 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะใช้โช้คแบบหัวกลับขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมลูกสูบขนาดใหญ่ของ Showa BPF ที่สามารถปรับตั้งความสูงต่ำได้ บางคนอยากจะอยากรู้ว่าจะปรับสูงต่ำไปทำไม คือจริงๆ แล้วตรงนี้มันจะช่วยเราได้ในเวลาที่เกิดบางคนไปใส่ยางหลังไซส์ใหญ่มากขึ้น ซึ่งถ้าโช้คหน้าไม่สามารถปรับความสูงต่ำได้ก็อาจจะทำให้ด้านหน้าของตัวรถกดลงมากเกินไปในเวลาที่เพิ่มไซส์ของยางหลังที่ใหญ่มากชึ้นได้ แต่ปัญหานั้นจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ขับ CBR600RR เพราะคุณจะสามารถเพิ่มความสูงของโช้คหน้าให้เหมาะสมกับความสูงของยางหลังได้ตลอดเวลานั่นเอง ส่วนระบบเบรกด้านหน้าจะใช้คาลิปเปอร์ 4 สูบ 2 ชุด ทำงานร่วมกับจากเบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหลังจะใช้โช้คแบบ Unit Prolink ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับรถแข่ง MotoGP ของฮอนด้า เบรกหลังใช้คาลิปเปอร์สูบเดี่ยว ที่ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 220 มิลลิเมตร มีสวิงอาร์มที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ทำให้มีน้ำหนักที่เบามากกว่าเดิม
มาถึงสิ่งที่ทำให้ Honda CBR600RR กลายเป็นสุดยอดรถสปอร์ตที่มายกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับรถสปอร์ตระดับ 600 ซีซี เสียที สิ่งแรกก็คือหน้าจอแสดงผล TFT แบบ Full Color ที่สามารถแสดงข้อมูลที่จำเป็นในการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วรอบเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ตำแหน่งเกียร์ เวลา รวมถึงไฟเตือนและไฟบอกค่าสถานะต่างๆ ที่แสดงผลได้อย่างแม่นยำ แถมยังสามารถใช้แสดงและปรับตั้งค่าต่างๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับตั้งค่าวิลลี่คอนโทรน ซึ่งเป็นโหมดสำหรับปรับตั้งระดับการยกของล้อหน้า หรือเอนจิ้นคอนโทรน ที่มีประโยชน์มากๆ ในขณะที่ใช้ขี่ซิ่ง คือพูดง่ายๆ ก็คือ CBR600RR เนี่ย ถือเป็นรถสปอร์ตระดับ 600 ซีซี รุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งจอสีมาให้ด้วยตั้งแต่ออกจากโรงงานเลย สำหรับจุดที่ 2 ที่ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นกว่ารถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน ก็คือตัว IMU Sensor แบบ 5 โมชั่น สำหรับหน้าที่การทำงานของ IMU ก็คือการเข้ามาควบคุมเสถียรภาพในขณะขับขี่ ทำให้ตัวรถมีเสถียรภาพมากกว่ารถที่รุ่นอื่นๆ ที่ไม่มีเทคโนโลยีนี้ คือตัว IMU จะมาทำงานร่วมกับระบบต่างๆ อย่างเช่นระบบ ABS นอกจากจะป้องกันการล้อล็อคเวลาเบรกกะทันหันแล้ว ตัว IMU ยังสามารถช่วยควบคุมล้อหน้าและหลังให้หมุนเท่ากัน เพื่อที่จะทำให้ตัวรถเข้าโค้งได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเบรกขณะเข้าโค้งด้ดีกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ IMU ยังเข้ามาช่วยในการทำงานของโหมด Wheelie Control ทำให้สามารถป้องกันการลอยตัวของล้อหลังในขณะที่เบรกหน้าแบบเต็มๆ และยังช่วยควบคุมการเร่งเครื่องยนต์และเบรกให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้อีกด้วย กล่าวง่ายๆ คือรถที่มี imu จะทำงานได้ดีและมีสเถียรภาพกว่ารถที่ไม่มี imu อย่างไม่ต้องสงสัย จุดสุดท้ายที่ทำให้ CBR600RR โดดเด่นกว่าเพื่อนๆ ก็คือท่อแบบต่อตูดที่สามารถส่งเสียงได้หวานไพเราะเสนาะหูเสียจริงๆ ผมว่าสำหรับรถสปอร์ตแล้ว การที่มีท่อออกตูดแบบนี้มันทำให้ดูเหมือนรถแข่งในสนาม MotoGP จริงๆ และทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ทำให้ CBR600RR โดดเด่นเหนือคู่แข่ง จริงอยู่ที่ CBR600RR นั้นไม่มีควิกชิพเตอร์ แต่จากมุมมองของผม ผมว่าควิกชิพเตอร์มันเป็นสิ่งที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ถ้าเราต้องการใช้ระบบนี้ ในขณะที่ถ้ารถของคุณไม่มีจอสี หรือไม่มี IMU มันคืออุปกรณ์ที่ไม่สามารถติดตั้งเพิ่มเข้าไปได้ยกเว้นว่าคุณจะขายรถเก่าและเปลี่ยนมาใช้รถคันใหม่ที่มีจอสีและ IMU
สำหรับ Honda CBR600RR จะมาในสี Grand Prix Red แบบเดียวกับรถแข่ง สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 549,000 บาท
ดู VDO "📌 สอนเข้าโค้ง - แบนโค้ง (Big Bike / มอเตอร์ไซค์) โดยนักแข่งระดับโลก" ได้ที่นี่ 👇
https://youtu.be/s6_ckI5dDR0
ติดตาม Facebook Fanpage ของเราได้ที่ 👇 https://www.facebook.com/Championship-Channel-104251577639855/?modal=admin_todo_tour
☎️ ติดต่อเพื่อให้การสนับสนุนได้ที่ 081-407-0505 (คุณอ้น)