รีวิว ระบบ Cruise Control CX5 2.0 SP เบนซิน 2018 – 2019 ขับรถเหมือนเล่นเกมเลย !
PS4 ราคาล่าสุด ผ่อน โปรโมชั่น ส่วนลด เปรียบเทียบ
Shopee : https://bit.ly/3bL6pcJ
Lazada : https://bit.ly/3m1bBxY
Switch ราคาล่าสุด ราคาล่าสุด ผ่อน โปรโมชั่น ส่วนลด เปรียบเทียบ
Shopee : https://bit.ly/2Zq60Yn
Lazada : https://bit.ly/2RbZ10K
ถ้าซื้อผ่านลิงค์นี้ผมจะได้ค่าคอมนิดหน่อยมาเป็นกำลังใจในการทำช่องต่อไปโดยที่ท่านผู้ชมยังได้ส่วนลดเหมือนเดิมไม่เสียอะไรเลยครับ ขอบคุณครับ
หลังจากซื้อ CX5 2.0 SP มาได้ประมาณ ปีครึ่ง อาทิตย์ที่ผ่านมาได้เดินทางไกลครั้งแรก คือการขับรถข้ามหลายจังหวัด ประมาณ เกือบๆ หกชั่วโมง โดยที่ไม่รู้เส้นทางเลย เลยลองใช้ Mazda Cruise Control ที่เข้าใจว่าน่าจะมีเฉพาะในรุ่น SP ถ้าเป็น CX5 ผมไม่เคยใช้มาก่อนเลย เพราะว่ามันดูซับซ้อนมาก ๆ แอบงง แต่พอลองใช้ดู ติดใจครับ มันดีมากมาย เพิ่มความปลอดภัยขึ้นมากๆ สำหรับเดินทางไกล เลยอยากจะมาแชร์ เผื่อใคร กำลังคิดว่าจะซื้อรถและกำลังคิดว่ารุ่นไหนดี ถ้าเดินทางบ่อย ๆ ระบบ Cruise Control อันนี้ ค่อนข้างเป็นประโยชน์มากครับ
1. วิธีการใช้ระบบนี้ อยู่ที่พวกมาลัยด้านขวาครับ มันจะเป็นชุดของมัน มีอยู่สี่ห้าปุ่ม เลยไม่กล้าใช้ดูงง แต่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรครับ กด Mode คือเปิดระบบ กด + คือเร่งความเร็วไปอีก 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กด – คือลดความเร็ว 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กดรูปรถขึ้น คือ ตั้งระยะห่างระหว่างรถเรากับรถข้างหน้าให้ไกลที่สุด กดรูปรถลงคือตั้งระยะห่างระหว่างรถเรากับรถข้างหน้าให้ใกล้ท้ายที่สุด3
2. การใช้ก็คือเหยียบคันเร่ง กด Mode กด + มันจะเทียบความเร็วให้ หลังจากนั้นถ้าอยากเร่งกด + อยากลด กด - เท่านี้เองครับ อารมณ์เหมือนเล่นเกมมาก ๆ เหมือนเราคอนโทรลเกมจาก คอนโทรลเลอร์อยู่เลย ทำให้คิดว่า เออจริงๆ ไม่ต้องเร่งจากการเหยียบคันเร่งที่เท้านี่ก็สะดวกดีนะ
3. การใช้ ใช้คู่กับ Navigator ในรถจะสะดวกมากครับ สมัยก่อน เวลาเราขับรถ การตัดสินใจของเรา จะขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราเห็นเฉพาะถนนข้างหน้า รถว่าง มีรถ เลนสวนมามีรถมั้ย แล้วเราก็ทำการตัดสินใจใด ๆ เช่นเร่งแซง แต่พอมี Navigator มันเพิ่มข้อมูลมาให้เรามากครับ เราอาจจะเห็นว่าถนนมันว่าง ซึ่งโดยธรรมชาติเราจะเหยียบ เพราะว่ามันเหมือนกับว่ามันไม่มีรถ แต่ถ้าเราดู Navigator ประกอบ ข้อมูลมันจะเปลี่ยนไปครับ มันจะทำให้เราเห็นว่า ถนนที่เราคิดว่ามันว่าง จริง ๆ แล้วมัน มีถนนสี่แยกเล็กๆ ตัดไปมาเต็มไปหมด ผ่านเขตชุมชน ชนบท ซึ่งอาจจะมีรถออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ มันทำให้เราอาจจะไม่ขับเร็วมาก ปลอดภัยขึ้นมาก หรือการตัดสินใจในการแซงก็ใช้ Navigator ช่วย ปลอดภัยขึ้นมากครับ
4. แล้วยังใช้คู่กับ ระบบเตือนที่กระจกมองข้าง สองด้าน ซ้ายขวา ที่เวลามีรถมามันจะเตือนในกระจก และ ใช้กับ Adaptive Headlamps คือเปิดไฟสูงไว้ตลอด แล้วพอมีรถสวนมันจะปรับหลบให้เอง ก็เพิ่มความปลอดภัยในการขับระหว่างเมืองตอนกลางคืนมาก ๆ ครับ
สรุปมันเป็นระบบที่ผมประทับใจมาก ๆ และใช้อีกแน่นอน ถ้าขับรถทางไกล หรือไปไหนที่ถนนไม่หนาแน่นมาก ชอบฟิลลิ่งของการขับแล้วเหมือนเล่นเกมมาก (ฮ่า) สนุกดี และ เชื่อว่ามันทำให้ปลอดภัยขึ้นมาก ทุกการเป็นไปการทำโดยสมองกล น่าจะดีกว่าทำโดยคนตัดสิน แต่ข้อติก็คือระบบ Navigator มันไม่ค่อยอับเดทครับ มันพาผมอ้อมไป ! จากเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง กลายเป็น 5 ชั่วโมงครึ่ง และพาไปผ่านเส้นทางที่น่ากลัวมากเหมือนกัน แต่ยังไงก็ต้องใช้ระบบเนวิเกเตอร์ของรถเพราะมันเชื่อมกับข้อมูลที่ยิงขึ้นไปบนกระจกคนขับด้วย ใช้ Google Maps ไม่ได้ครับ T-T
Music Bensound.com